หนังสือสารคดีภาพ "อสุรพิษ" ใช้องค์ประกอบแฟนตาซีที่เด็ก ๆ ชอบ
ชวนทุกคนเรียนรู้และตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่โลกของเรากำลังเผชิญ
หนังสือจากสเปนใน Frankfurt Book Fair (หรือในเทศกาลหนังสืออื่น ๆ) ค่อนข้างจะพิเศษกว่าประเทศอื่น ตรงที่หนังสือประเทศนี้จะถูกจัดแสดงในบูธย่อย ๆ แบ่งแยกเป็นแคว้น ๆ ไป เช่น แคว้นกาตาลุนญา แคว้นวาเลนเซีย ฯลฯ เพราะแต่ละแคว้นเขามีภาษาถิ่นและวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง (และอาจต้องการแยกตัวเป็นเอกราชด้วย)
การออกบูธหนังสือจึงไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการค้า แต่เป็นการประกาศจุดยืนของแคว้นในการรักษาอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ของตนอย่างมั่นคงและกล้าหาญค่ะ
ในบรรดาสารคดีเด็กแจ่ม ๆ ทั้งหลายจากแคว้นกาตาลุนญา เราได้เลือกหนังสือเด่น ๆ มา 5 เล่มที่มาพร้อมธีมและเทคนิคการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่น่าสนใจ ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยค่ะ
วันนี้ เราจะรีวิวเรื่อง SOS Monstruos verdaderos ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมร้อยแปดพันเก้าในโลกยุคปัจจุบันค่ะ จริง ๆ หนังสือธีมสิ่งแวดล้อมเดี๋ยวนี้นี่ก็มีเยอะแยะนะคะ แต่เล่มนี้้ตาลยกให้เป็นหนังสือเด็กในดวงใจประจำปีนี้เลยค่า~
ข้อมูลหนังสือ
SOS Monstruos verdaderos (SOS Real Monsters Threatening the Planet)
เขียนและวาดโดย: Marie G. Rohde
ตีพิมพ์โดย: Zahorí Books
ปี: 2019
ความโดดเด่น
หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องของปัญหาสิ่งแวดล้อมหลาย ๆ แบบที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ โดย "มลภาวะ" แต่ละอย่างจะถูกนำเสนอในรูปของสัตว์ประหลาด ซึ่งมีรูปร่างคล้ายสัตว์ในเทพนิยาย/หนังที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น มังกร คิงคอง หุ่นยนต์ยักษ์ ฯลฯ ในแต่ละหน้าคู่ เจ้า "อสุรพิษ" จะมาแนะนำตัวเองให้ผู้อ่านได้รู้จัก ว่าพวกมันชอบกินอะไรเป็นอาหาร และแผลงฤทธิ์อะไรต่อสิ่งแวดล้อมได้บ้าง เช่น
ปรากฏการณ์ทะเลกรด (Ocean Acidification) ถูกนำเสนอในรูปของสัตว์ประหลาดใต้น้ำชื่อ Agriamares ผู้กินคาร์บอนไดออกไซด์เป็นอาหาร และชอบขโมยสารเคมีที่ปะการัง เม่นทะเล และหอยต่าง ๆ ใช้สร้างเปลือกแข็งไป ทำให้สัตว์เหล่านี้ร่างกายอ่อนแอ
เจ้า Agriamares ตัวการ (?) ของทะเลกรด
ส่วนปัญหาการตัดถนนเข้าไปในเขตป่าก็ถูกเล่าผ่านเจ้า Quebracobra อสุรพิษตัวยาวใหญ่คล้ายงูหลามยักษ์
"เมื่อรถยนต์วิ่งไปมาบนตัวฉัน ฉันจะจั๊กจี้และส่งเสียงดังจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว ทำให้สัตว์ต่าง ๆ ใช้ชีวิตไม่เป็นปกติสุข"
เจ้างูยักษ์ผู้เป็นญาติของ Jörmungandr อสรพิษในตำนานไวกิ้งกล่าว
"ฉันโอบรัดโลกและผ่าโลกออกเป็นส่วน ๆ ทำให้สัตว์ต่าง ๆ ไปมาหากันไม่ได้ เด็ก ๆ ไม่มีที่เล่น แถมเกล็ดหนา ๆ ของฉันก็กันไม่ให้น้ำซึมลงใต้ดินด้วย"
Quebracobra ญาติยุคใหม่ของอสรพิษในตำนานไวกิ้ง
ทำให้เรื่องซับซ้อนไกลตัว กลายเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจ
การอธิบายกระบวนการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ในเชิงวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องค่อนข้างซับซ้อนสำหรับเด็ก (ผู้ใหญ่ก็ด้วย) เพราะเต็มไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง ส่งผลกระทบต่อกันหลายทอด เกี่ยวพันกับกระบวนการทางเคมีที่เด็กยังเรียนไม่ถึง อย่างไรก็ตาม คอนเซปต์ง่าย ๆ เช่น มลพิษเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง ส่งผลเสียต่อใคร และเราควรจะป้องกันไม่เพิ่มมลพิษนั้น ๆ ได้อย่างไร เป็นเรื่องที่เด็กควรรู้และไม่ยากเกินเข้าใจ ปัญหาคือ จะทำอย่างไรให้เด็กสนใจที่จะรู้และจดจำข้อมูลเหล่านั้น
เทคนิคที่หนังสือใช้กระตุ้นความสนใจของเด็กต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม ก็คือการนำตัวละครสัตว์ประหลาดโลกแฟนตาซี ที่เด็ก ๆ รู้จักดีอยู่แล้วจากหนังสือ/สื่ออื่น ๆ มาใช้เปรียบเทียบกับมลพิษที่มีอยู่จริงในโลกของเรา นอกจากจะทำให้เรื่องสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว (มีพื้นฐานมาจากตัวละครที่เด็กรู้จักอยู่แล้ว) และน่าตื่นเต้น (เพราะเด็ก ๆ ชอบรู้เรื่องสัตว์ประหลาดอยู่แล้ว) ยังทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับมลภาวะมีลักษณะเป็นนามธรรม เห็นภาพ ประกอบกับใช้อินโฟกราฟิกสรุปโปรไฟล์ของสัตว์ประหลาดแต่ละตัว ช่วยให้จดจำข้อมูลได้ง่ายขึ้นด้วย
ความเก๋อีกอย่างของหนังสือเล่มนี้คือ
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับอสุรกายในตำนานไปด้วยในตัว เช่น เทียบ Agriamares (อสุรพิษทะเลกรด) กับสัตว์ประหลาด Loch Ness และเทียบเจ้า Quebracobra (อสุรกายงูทางหลวง) กับ Jörmungandr อสรพิษในตำนานไวกิ้งผู้โอบรัดโลกได้ทั้งใบ
หลังจากให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ในตำนานโบราณเสร็จ หนังสือจะกล่าวปิดท้ายเสมอว่า เมื่อเทียบกับเจ้าพวกอสุรกายทำลายโลกยุคใหม่แล้ว สัตว์ประหลาดยุคก่อนนั้นแทบจะไร้พิษสงไปเลย นับเป็นการกระตุ้นให้ผู้อ่านตระหนักถึงมหันตภัยในโลกความเป็นจริงอีกทาง
แล้วเพื่อน ๆ ว่า ถ้าเราจะเล่าเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมในเมืองไทยในรูปแบบแฟนตาซีบ้าง
จะเล่าอย่างไรดีคะ?
*บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรก ที่นี่
Comments